bookmark_borderคนเป็นโรคกระเพาะควรกินอาหารประเภทไหน      

          ต้องบอกเลยว่าคนไทยเรานั้นส่วนใหญ่แล้วมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการเป็นโรคกระเพาะเนื่องจากว่าคนไทยนั้นมักจะกินอาหารไม่ตรงเวลาและโดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาคนสาวๆทั้งหลายที่มักต้องการอดอาหารเพื่อต้องการให้ตนเองนั้นผอมแทนที่จะได้หุ่นดีนั้นก็อาจจะได้โรคกระเพาะตามมาด้วยซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องของอาหารที่เหมาะสมสําหรับคนเป็นโรคกระเพาะว่าควรจะต้องกินอาหารชนิดไหนหรือประเภทไหนที่จะไม่ส่งผลต่อการระคายเคืองของกระเพาะอาหารของคนนั้นเอง

       อาหารที่เหมาะกับคนเป็นโรคกระเพาะนั้นเราควรจะเลือกอาหารที่เต็มไปด้วยเส้นใยของอาหารเพราะมันจะช่วยในเรื่องของการลดการเสียดสีของกระเพาะอาหารได้ดีดังนั้นผักที่มีเส้นใยของอาหารสูงก็จะได้แก่บล็อกโคลี่รวมถึงแครอทและยังมีพืชตระกูลถั่วเมืองถึงแอปเปิ้ลและข้าวโอ๊ตอีกด้วย  นอกจากที่เราจะต้องคำนึงถึงอาหารที่มีเส้นใยของอาหารเยอะแล้วเราก็เรายังต้องดูในเรื่องของอาหารชนิดนั้นว่ามีความเป็นกรดหรือด่างมากน้อยแค่ไหน  

          ซึ่งโดยปกติแล้วเราควรจะต้องมีการกินอาหารที่มีความเป็นกรดน้อยเราสามารถเลือกกินจากผักชนิดต่างๆได้นอกจากนี้เรายังสามารถที่จะกินพวกอกไก่หรือเนื้อปลาซึ่งอาหารเหล่านี้จะให้ไขมันต่ำและเรายังสามารถปรุงอาหารให้ไม่ต้องมีความมันมากเกินไปด้วยการใช้น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันคาโนล่ามาใช้ในการปรุงอาหารของเราที่สำคัญถ้าหากคนเป็นโรคกระเพาะอาหารอยู่แล้วเราก็คุณต้องไม่กินคาเฟอีนและเครื่องดื่มเช่น  เป๊ปซี่  หรือโค้ก      เป็นต้น   

         อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่เป็นโรคกระเพาะอาหารนั้นควรจะกินอาหารที่มีรสชาติอ่อนๆไม่ควรกินอาหารรสจัดหรือไม่ควรที่จะกินอาหารรสเผ็ดเพราะมันจะส่งผลต่อกระเพาะอาหารของคุณโดยตรงและที่สำคัญนั้นพฤติกรรมการกินอาหารของคนก็จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นเดียวกันเพราะถ้าหากคุณกินอาหารแล้วเข้านอนเลยทันทีมาจะส่งผลต่อระบบการย่อยของกระเพาะอาหารของคนเป็นอย่างมากทางที่ดีที่สุดก็คือคุณจะต้องกินอาหารก่อนที่คุณจะนอนอย่างน้อย 2 ชั่วโมงขึ้นไปถึงจะไม่ส่งผลกระทบต่อการย่อยของกระเพาะอาหารของคุณนั่นเอง

         และอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือเวลาที่คุณรับประทานอาหารในช่วงที่คุณเป็นโรคกระเพาะนั้นคุณควรจะกินอาหารทีละนิดแต่กินมูมมามหรืออยากกินคำโตมากเกินไปค่อยๆกินไปจะช่วยให้กระเพาะของคุณไม่ต้องทำงานหนักในการย่อยมากเกินไปนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย  แทงหวย

bookmark_borderความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการกินไข่ 

         หลายคนมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของการกินไข่ค่อนข้างที่ไม่ถูกต้องมากนักเลยบางคนนั้นเชื่อว่าถ้าหากต้องการที่จะควบคุมน้ำหนักให้กินไข่ขาวอย่างเดียวไม่ควรกินไข่แดงเยอะเกินไปซึ่งอันที่จริงแล้วไม่ว่าคุณจะกินไข่ขาวหรือไข่แดงนั้นถ้าหากคุณกินในปริมาณที่พอเหมาะก็ส่งผลดีต่อร่างกายทั้งสิ้นถ้ากินไข่ขาวเพียงอย่างเดียวในไข่ขาวนั้นจะมีทั้งโซเดียมและ โพแทสเซียมที่สูงและในไข่แดงนั้นก็จะมีวิตามิน a d e k และยังมีฟอสฟอรัสด้วย ดังนั้นถ้าเราอยากได้ไข่เข้าไปบำรุงร่างกายก็ควรจะกินทั้งไข่ขาวและไข่แดงรวมกันแต่ใน 1 วันนั้นเราไม่ควรกินเกินวันละ 2 ฟองเท่านั้นเอง 

           ความเชื่อที่ว่าการกินไข่ดิบแล้วจะให้กำลังวังชาฝนฝังน่าดู อันที่จริงแล้วคุณหมอจะไม่แนะนำให้คนเรากินไข่ดิบเพราะว่าในร่างกายของคนเรานั้นยังไม่มีน้ำย่อยที่จะไปย่อยไข่ขาวได้ ซึ่งถ้าเรากินเข้าไปมันจะส่งผลเกี่ยวกับเรื่องของระบบการย่อยอาหารกระเพาะอาหารนั่นเองเท่านั้นยังไม่พอ เพราะในไข่ดิบนั้นจะมีการปนเปื้อนเชื้อโรคดังนั้นการกินไข่ที่ดีควรจะต้องมีการทำให้สุกก่อนแล้วค่อยกิน การกินไข่ขาวดิบนั้นเราจะไม่ค่อยได้สารอาหารจากไข่ขาวมากนักจะได้ก็ต่อเมื่อเราทำให้เขาสุกแล้วนั่นเอง  ส่วนเรื่องของการปึ๋งปั๋งนั้น ไม่ได้มีการบันทึกทางการแพทย์เอาไว้

       ส่วนความเชื่อเกี่ยวกับการกินไข่ที่ว่าถ้าหากเรากินไข่เยอะๆเราก็จะได้ ประโยชน์สูงสุดจากการกินไข่นั้น ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องซะทีเดียวเพราะเรากินไข่เยอะมากเกินไปก็ไม่ได้ประโยชน์จากการกินไข่มากนักอาจจะทำให้เสี่ยงต่อการมีคลอเรสเตอรอลสูงนั่นเองซึ่งจะส่งผลเสียต่อร่างกายดังนั้นการกินของกินในปริมาณที่พอเหมาะ 

        ส่วนความเชื่อที่ว่าการกินไข่นั้นไม่ควรกินเกินวันละ 2 ฟองนั้นก็ไม่จำเป็นเสมอไปจริงๆแล้วร่างกายของคนเรานั้นจะต้องการพลังงานจากไข่นั้นไม่เท่าเทียมกันขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปการกินไข่นั้นควรกินสัปดาห์นึงไม่เกิน 3 ฟอง   

      ดังนั้นเราอาจกล่าวได้ว่าถึงแม้ว่าใส่นั้นจะมีประโยชน์ต่อร่างกายแต่การกินมากเกินไปจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นเดียวกันดังนั้นการกินไข่ที่ดีนั้นเราควรจะต้องมีการกินในปริมาณที่พอเหมาะซึ่งอาจจะต้องดูช่วงอายุถ้าหากเป็นช่วงเด็กหรือวัยรุ่นนั้นอาจจะกินไข่วันละ 1-2 ฟองก็ได้แต่ถ้าเกิดยิ่งอายุสูงมากขึ้นปริมาณไข่ควรจะลดลง จะเกิดผลดีต่อร่างกายมากกว่าการกินไข่ในปริมาณที่นั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย    แทงหวย

bookmark_borderทำไมยังหากมีอาการนอนไม่หลับ

สำหรับเรื่องของสุขลักษณะในการนอนเรื่องแรกเลยขอถามก่อนว่าถ้ากลางคืนนอนไม่หลับแล้วกลางวันง่วงเพลียมากดื่มกาแฟได้หรือเปล่าสรุปให้เลย ทาน ได้แต่ว่าไม่อยากให้ทานช่วงเย็นหรือใกล้นอนถ้าเกิดไม่ทานได้เลยก็ดีถ้าเลือกทานก็ขอให้เป็นเช้าๆเที่ยงๆ6ชั่วโมงก่อนนอนไม่ควรทานกาแฟ

นอจกากนี้มันยังมีคนอีกประเภทนึงที่บอกว่าถึงดื่มกาแฟก็หลับได้เลยไม่มีปัญหาดื่มตอน2-3ทุ่มแล้วหลับได้เลยถามว่ากาแฟที่กินมันมีปัญหากับการนอนหรือไม่มันเป็นปัญหาอยู่แล้ว

เพราะว่าคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟจะไปรับกวนคลื่อสมองทำให้เราหลับลึกไม่ได้ว่าจะดื่มกาแฟหรือบางคนกินเบียร์บางคนรู้สึกว่าการดื่มเหล่าเบียร์ทำให้หลับายกลุ่มคนเหล่านี้เขาบอกว่าเขาหลับได้จริงแต่ตามทฤฎีแล้วเขาจะหลับได้ไม่ลึกคนที่ทานพวกนี้ก่อนนอนจะทำให้คุณภาพของการนอนไม่ดี

เนื่องจากนี้ขอถามเพิ่มกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีนกินช่วงเย็นและก่อนนอนได้ไหมบอกเลยว่า กินไม่ได้ เพราะว่าในกาแฟDecafที่บอกว่าในกาแฟไม่มีคาเฟอีนจริงๆแล้วมนก็มีคาเฟอีนแต่จะมีอยู่ในในปริมาณที่น้อยเขาไม่สามารถเอาปริมาณคาเฟอีนออกได้ทั้งหมดสรุป

กาแฟมีคาเฟอีน หรือ ไม่มีคาเฟอีนก็แล้วแต่รวมถึงแอลกอฮอล์4-6ชั่วโมงก่อนนอนไม่ควรทานสิ่งเหล่านี้เพราะว่าอาจจะทำให้หลับได้ไม่ดีดังนั้นแล้วคนที่ตอนกลางคืนนอนไค่อยหลับกลางวันงีบได้ไหมให้งีบได้ถ้ามันง่วงมากจริงๆให้งีบได้แต่ว่าพยายามงีบสั้นๆยิ่งสั้นยิ่งดีอาจจะงีบแค่5-10นาทีก็ได้อย่างมากสุดไม่เกิน15นาที

เพราะว่าอย่างนี้ทฤฎีเรื่องการนอนหลับเขาต้องการให้เราหลับกลางคืนพอเวลาที่เราตื่นเช้ามาจะเป็นช่วงที่เราสดชื่นที่สุดแล้วความสดชื่นตรงนี้มันจะลดลงเรื่อยๆจนพอเวลาใกล้ๆเข้านอนความสดชื่นจะน้อยที่สุดแล้วก็หลับไปในช่วงนี้แบบนี้ถือว่าดีที่สุดเลยจะทำให้การนอนนอนได้ดีด้วย

แต่สมมติว่าเราตื่นเช้ามาสดชื่นความสดชื่นน้อยลงเรื่อยๆแล้วเรางีบจะเกิดอะไรขึ้นพองีบความสดชื่นเพิ่มขึ้นมาแล้วมันจะค่อยๆลดลงมาอีกทีนึงแต่แบบนี้มันจะลดลงน้อยกว่าแบบแรก

เพราะฉะนั้นให้งีบได้แต่ว่าอย่านาน5-10นาทีก็พอแล้วเพราะฉะนั้นแล้วหลายคนคงเคยกินอาหารอิ่มๆแล้วง่วงไหมโดยเฉพาะกินมื้อเที่ยงอิ่มแล้วง่วงเลยหลับเลยถามว่าเราใช้วิธีกินอาหารอิ่มๆก่อนนอนเลยได้ไหมเพื่อให้เราง่วงและหลับ

 

สนับสนุนโดย.  แทงหวย

bookmark_borderต้นเหตุที่ก่อให้เกิดการหูตึงหรือก่อให้เกิดเกี่ยวกับการได้ยินที่ผิดเพี้ยน

  การเกิดปัญหาจากการได้ยินหรือการสูญเสียการได้ยินนั้นส่วนใหญ่มักจะเป็นสำหรับผู้มีอายุที่สูง ซึ่งการได้ยินบกพร่องแบบนี้มักจะเป็นการเสื่อมสภาพตามอายุของวัยนั่นเอง ดังนั้นมันเป็นการที่ทุกคนจะต้องเผชิญกับมันเมื่อถึงวัยอันควร แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าวัยอื่นๆจะมีปัญหาเกี่ยวกับการได้ยินแบบนี้ไม่ได้ เพราะปัญหาต่างๆเหล่านี้สามารถเป็นได้ในทุกคนและทุกวัย แต่ส่วนใหญ่มักจะพบมากที่สุดกับวัยสูงอายุเท่านั้นเอง

การใช้ชีวิตบนความเสี่ยงแบบไม่ระวังก็เสี่ยงให้เกิดปัญหาหูตึงได้โดยไม่ต้องรอแก่

ควรหลีกเลี่ยงหรือระวังการฟังเสียงที่มีความดังมากเกินไปเป็นเวลานานๆ

คนส่วนใหญ่มักชื่นชอบเสียงเพลงที่มีการเปิดด้วยความเสียงดัง หรือชอบนำตนเองไปอยู่ในสถานที่ที่มีการใช้เสียงที่ดัง จนลืมไปว่าการที่เราอยู่ในที่ที่มีเสียงดังมากเกินไป หรืออยู่กับเสียงดังที่เป็นเวลานานๆอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบการได้ยินของหูของตนได้ ซึ่งนั้นจึงเป็นต้นเหตุให้การรับฟังของเรามีการเสื่อมคุณภาพก่อนเวลาอันควรได้เป็นอย่างดี

ไม่ว่าจะเป็นการได้รับได้ยินเสียงที่ดังๆในผับบาร์เป็นเวลานานๆ หรือการทำงานอยู่ไกล้กลับเครื่องจักรที่ใช้ในการทำงานที่มีเสียงดังต่อเนื่องสิ่งเหล่านี้จะเป็นปัจจัยทำให้เราหูตึงได้เช่นกัน

หากเราไม่สามารถหลีกปัญหาเหล่านี้ได้ เราควรหาตัวช่วยหรืออุปกรณ์มาช่วยให้การได้ยินเสียงที่มีความดังมากให้ลดลงจากเดิม เช่น การหาเอียปลั๊กมาใส่เพื่อเป็นการลดเสียงให้ดังน้อยลง หรืออาจจะหาที่ครอบหูเพื่อเป็นตัวช่วยอีกทางก็ได้เช่นกัน

ควรระวังในการทำกิจกรรมต่างๆที่มันเสี่ยงให้เกิดอันตรายต่อการได้ยิน

คุณทราบหรือไม่ว่ากิจกรรมบางอย่างที่คุณทำนั้น อาจจะส่งผลต่อระบบการได้ยินของหูของคุณ เพราะเนื่องจากการเกิดแรงดันในการทำกิจกรรมต่างๆนั้น ส่งผลที่ก่อให้เกิดอันตรายเป็นอย่างยิ่งเช่น การที่คุณได้ทำกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำที่ลึกเพื่อลงไปดูประการัง และส่วนหนึ่งก็อาจจะเกิดมาจากการเดินทางด้วยเครื่องบินที่เมื่ออยู่บนเครื่องแล้วจะเกิดแรงอัดอากาศที่ช่องหูของเราเป็นเหตุที่ทำให้เราหูตึงอีกส่วนหนึ่งด้วย

ซึ่งอาการของหูอื้อนั้นมันคืออาการที่เกิดจากความดันในหูชั้นกลางของเรานั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันหรือเร่งด่วน ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นการทำกิจกรรมอะไรก็ตามที่เป็นการก่อให้เกิดความเสี่ยงเหล่านี้หรือสามารถส่งผลให้ก่อเกิดการที่ทำให้เราหูอื้อได้นั้น เราควรหลีกเลี่ยงเพื่อระบบการได้ยินของตัวคุณเองนะคะ

 

สนับสนุนโดย.  ชุดตรวจ hiv

bookmark_borderเคล็ดลับการลดความดับโลหิต

ในปัจจุบันพบว่ามีคนเป็นโรคความดันโลหิตสูงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆหลายคนรู้ว่าตนเองเป็นโรคความดันโลหิตสูงแต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังไม่ทราบว่าตัวเองเป็นโรคความดันโลหิตสูงอาจจะด้วยเพราะว่าโรคความดันโลหิตสูงต้องบอกเลยว่าบางคนไม่มีอาการบางทีความดันสูงมาๆแล้วก็ยังไม่มีอาการ

เพราะฉะนั้นแล้วต้องบอกเลยว่ามันสำคัญมากเลยทีเดียวในการที่เราจะต้องควบคุมความดันโลหิตลงมาให้อยู่ในระดับปกติเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคต่างๆตามมาและวันนี้เราก็จะมาแนะนำเคล็ดลับดีๆในการลดความดันโลหิตสำหรับคนที่เป้ฯโรคความดันโลหิตสูงบอกเลยว่าสำคัญมากลองเอาไปทำดู

ข้อที่หนึ่ง จำกัดเกลือในอาหาร หรือ ทานของเค็มให้น้อยลง มีงานวิจัยพบว่าการที่เราทานอาหารที่มีส่วนประกอบของเกลือน้อยลงสามารถลดความดันโลหิตของเราลงไปได้8มิลลิเมตรประหลอดเลยทีเดียว

แต่คนไทยก็จะชิลกับการรับประทานของเค็มบางทีก็ยังไม่รู้ว่าตนเองทานของเค็มไปแล้วเพราะว่าเราติดเค็มเราก็จะมาแนะนำว่าอาหารอะไรบ้างที่มันมีส่วนประกอบของเกลือสูงๆหลักก็จะเป็นพวกอาหารแปลรูปต่างๆไม่ว่าจะเป็นอาหารหมักดองต่างๆพวกมะม่วงดองกระเทียมดองต่างๆแล้วก็พวกอาหารตากแห้งหมึกตากแห้งปลาแห้งรวมไปถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรู้และมันฝรั่งทอดก็จะมีส่วนผสมของเกลือ

ดังนั้นให้หลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้และเวลาที่เราปรุงอาหารก็พยายามเติมเกลือให้น้อยลงวันนึงไม่ควรเกิน2ช้อนชาก็จะทำให้ความดันโลหิตของเราลดลงได้แน่นอน

ข้อที่สอง ทานผักผสมไม้ให้มากขึ้นแล้วก็พวกของหวานอาหารที่มีไขมันสูงให้ลดลง เพราะว่าได้มีงานวิจัยพบว่าการที่ทานผักผลไม้เพิ่มขึ้นแล้วก็ลดของหวานแล้วก็พวกไขมันสูงสามารถลดความดันลงไปได้ถึงประมาณ8-14มิลลิเมตรประหลอดเลยทีเดียวต้องบอกว่าลดลงไปได้เยอะเลยทีเดียว

ประโยชน์ของผักและผลไม้นอกจากลดความดันลงได้แล้วยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดมะเร็งลำไส้ด้วยแล้วก็ช่วยทำให้เราขับถ่ายได้ข้องขึ้นอีกด้วยดังนั้นมีประโยชน์มากๆเลยทีเดียวแต่สำหรับผู้ป่วยแนะนำว่าในเรื่องของผลไม้อาจจะต้องจำกัดปริมาณนดนึง

เพราะว่าผลไม้จะมีส่วนประกอบของน้ำตาลสูงพอสมควรและใครที่ไม่ได้มีโรคเบาหวานอะไรก็ให้รับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้นก็จะช่วยลดความดันโลหิตของเราให้ลงมาอยู่ในระดับที่มันดีขึ้นและไม่ทำให้คุณเกิดเปนโรคความดันโลหิตสูงได้เช่นกันรับรองเลยว่าทำตามนี้ความดันของคุณจะต้องลดลงอย่างแน่นอน

 

สนับสนุนโดย    ผลหวยยี่กี ล่าสุด

bookmark_borderเทคนิคยืดอายุเพียงแค่ทำตามสิ่งที่จะบอกต่อไปนี้

สำหรับสิ่งที่จะบอกต่อไปนี้จะช่วยทำให้คุณมีอายุยืนขึ้นมีจิตใจที่แจ่มใสขึ้นมีสุขภาพที่ดีขึ้นคือมันดีไปทุกอย่างและสิ่งเหล่านี้มันเป็นสิ่งที่เราทำเป็นประจำด้วยตนเองด้วยไม่ใช่ว่าบอกอย่างเดียวแล้วไม่ทำอะไรอย่างนี้เราทำเองด้วยพร้อมแล้วไปดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง

โดยสิ่งเหล่านี้จะประกอบไปด้วยกฎของเลย8ทั้งหมดจะมีเลข8เป็นองค์ประกอบอยู่มาดูกฎข้อเลยว่ามีอะไรบ้าง

กฎของเลย8ก็คือ นอนวันละ 8ชั่วโมง ค่าเฉลี่ยของการนอนที่ดีคือ7-9ชั่วโมงนั่นเองไม่ควรที่จะน้อยไปกว่า7และไม่ควรที่จะมากเกิน9เกินไปนักบางคนบอกอย่างนั้นนอนเยอะๆไปเลย12ชั่วโมงอย่างนี้ไม่ดี การนอนมากไปก็ไม่ดีการนอนน้อยไปก็ไม่ดี

ซึ่งมีการวิจัยที่ชัดเจนว่าถ้าท่านนอนน้อยกว่า7ชั่วโมงเรื่องของโรคต่างๆโรคภัยไข้เจ็บโรคหัวใจก็จะสูงขึ้นเบาหวานก็จะคุมได้ยากความดันก็จะคุมได้ยากอายุโดนรวมก็จะดูลดหอยน้อยลง ผู้ที่นอนมากก็เช่นกันผู้ที่นอนมากเกินไปก็จะเหมือนๆกันว่าก็จะมีอัตราเสี่ยงการเป็นโรคต่างๆที่มากขึ้นเทียบกับผู้ที่นอนใน7-9ชั่วโมงไม่ได้

เพราฉะนั้นเราขอเฉลี่ยลงมาที่เป็น8ชั่วโมงแล้วกันคราวนี้เทคนิคเพิ่มเติมของตรงนี้ไม่ใช่แค่นอน8ชั่วโมงจะต้องได้เป็น8ชั่วโมงที่เจ๋งมากๆ เจ๋งมากๆคืออะไรก็คือจ้องเป็นระยะเวลาที่เจ๋งสุดเราขอแนะนำให้นอนช่วง4ทุ่มถึง6โมงเช้าช่วงนี้เจ๋งจริงๆถามว่าเพราะอะไร

เพราะว่าช่วงประมาณ5ทุ่มเที่ยงคืนตี1-2พวกนี้โกรทฮอร์โมนจะหลั่งแล้วจะหลั่งเมื่อเราเริ่มหลับลึกเพราฉะนั้นเราจะต้องหลับ4ทุ่มเราจะไปหลับลึกสัก5ทุ่มเราจะได้โกรทฮอร์โมนเต็มๆเลย4ชั่วโมงโกรทฮอร์โมนนี้จะทำอะไรบ้ายืดอายุชะลอวัยกล้ามเนื้อกระดูกแข็งแรงจิตใจผ่องใสทุกอย่างเพอร์เฟดหมดขอให้ได้ขอให้โดน

ดังนั้นแล้วให้นอนเฉลี่ย8ชั่วโมงเวลาที่แนะนำ4ทุ่มถึง6โมงเช้าจันทร์ถึงอาทิตย์นอนเท่ากันทุกวันร่างกายไม่เคยรู้ว่าวันนี้เป็นวันจันทร์วันนี้เป้นวันอาทิตย์ร่างกายจะรู้แค่ว่า1วันจะมี24ชั่วโมงและเขาจะทำงานเหมือนกันทุกวันไม่มีวันธรรมดาและวันหยุด

นอกจากนี้เลย8นี้จะเป็นการเดินวันละ8,000ก้าวจะช่วยทำให้ร่างกายของท่านแข็งแรงระบบหัวใจก็แข็งแรงทุกอย่างก็ดูดีไปหมดถามว่ามีการวิจัยเลยในเรื่องของการเดิน8,000ก้าววันนึงก็เฉลี่ยประมาณ4สักกิโลถึง5กิโล

 

สนับสนุนโดย    ถ่ายทอดสดหวยฮานอยวันนี้

bookmark_borderทำไมเราถึงต้องวิ่งออกกำลังกายด้วยนะ 

สำหรับการหลายคนมักจะรู้สึกไม่ค่อยจะดีหรือรู้สึกท้อแท้เพราะว่าการวิ่งนั้นคนส่วนมากมักจะคิดถึงการวิ่งมาราธอนที่มีระยะเวลาวิ่งยาวนานและใช้เวลาในการวิ่งที่สูงระยะทางที่ไกลซึ่งอันที่จริงแล้วการวิ่งไม่จำเป็นต้องวิ่งแบบมาราธอนก็ได้เพราะการวิ่งสามารถที่จะวิ่งรูปแบบธรรมดาได้เช่นกันโดยที่ไม่ต้องใช้ระยะทางยาวนานขนาดนั้น 

การวิ่งสำหรับเรานั้นถือได้ว่าเป็นการออกกำลังกายรูปแบบหนึ่งที่ไม่ต้องลงทุนใดๆทั้งสิ้นเพียงแค่คุณมีรองเท้าผ้าใบเพียง 1 คู่ก็สามารถที่จะวิ่งไปในทิศทางอื่นได้โดยที่ร่างกายของคุณก็จะแข็งแรงขึ้นมาได้ด้วยเช่นกัน สำหรับการวิ่งน้ำให้อะไรกับเราได้หลากหลายอย่างด้วยกันเนื่องจากที่จะทำให้สุขภาพแข็งแรงแล้วมาดูกันดีกว่าว่าประโยชน์ของการวิ่งหนีอย่างไรบ้าง 

ประโยชน์ของการวิ่งได้แก่ 

ทำให้เรามีความสุขมากขึ้น 

การวิ่งนั้นสามารถที่จะทำการหลั่งสารบางชนิดขึ้นมา ดังนั้นสารที่จะทำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้ก็เช่นกัน เพียงแค่คุณวิ่งประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะส่งผลทำให้คุณหายเครียดได้ ไม่เพียงแค่นั้นยังทำให้รู้สึกดีได้อีกด้วย ยิ่งถ้าหากว่าไปวิ่งมาราธอนด้วยแล้วเจอกับบรรยากาศที่ดีโดยรอบๆอาจจะหายจากอาการซึมเศร้าได้ด้วยนะ

ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้

การวิ่งจะส่งผลให้คุณดูหุ่นดีขึ้น ในการวิ่งจะส่งผลให้รูปร่างของคนดีขึ้นได้โดยจะต้องทำการวิ่งสักระยะหนึ่งระบบเผาผลาญในร่างกายของคุณนั้นจะทำงานได้ดียิ่งขึ้นยิ่งหากคุณวิ่งเป็นประจำและติดต่อกันเป็นระยะเวลาสักพักก็จะเห็นผลอย่างได้ชัดโดยการเผาผลาญแคลอรี่เหล่านี้จะเป็นการช่วยทำให้ไขมันของคุณหยุดตัวลงและทำให้คุณนั้นดูรูปร่างดีขึ้นได้

จะเห็นได้ว่าผู้ที่ทำการออกกำลังกายส่วนใหญ่แล้วพวกเขามักจะมีรูปร่างที่ดีหนึ่งในนั้นก็คือการได้วิ่งนั่นเองซึ่งการวิ่งนี้จะไปช่วยเขาขาดแคลอรี่ต่างๆภายในร่างกายของคุณซึ่งถ้าหากคุณควบคุมอาหารควบคู่ไปด้วยก็จะเป็นการส่งผลทำให้หุ่นของคุณเฟิร์มมากยิ่งขึ้นและที่สำคัญคุณจะมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

ช่วยในเรื่องการส่งเสริมข้อต่อของกระดูก 

สำหรับการวิ่งเป็นการเคลื่อนไหวของร่างกายที่ประกอบไปด้วยอวัยวะต่างๆดังนั้นการวิ่งเหล่านี้จึงส่งผลทำให้ระบบของคุณที่อยู่ภายในดีขึ้นมาได้นั่นก็รวมไปถึงการทำให้กระดูกของคุณมีการแข็งแรงมากยิ่งขึ้นยิ่งข้อต่อของกระดูกได้ขยับเขยื้อนมากเท่าไหร่ก็จะเป็นการวอร์มในส่วนตรงนั้นทำให้ร่างกายตรงข้อต่อแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

 

สนับสนุนโดย.  วิธีเล่นหวยฮานอยให้ถูก

bookmark_borderเทคนิคแก้ระบบเผาผลาญบอกลาความอ้วนในตัวเรา

ซึ่งวันนี้เราก็จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องของการแก้ไขระบบเผาผลาญเราบอกเลยว่าเรื่องของระบบเผาผลาญพังเราคิดว่ามันน่าจะเป็นเรื่องปัญหาของคนที่จะลดน้ำหนักส่วนใหญ่เลยว่าเวลาเรากินอาหารเข้าไปแล้วและพยายามลดแคลอรี่ปกติลดลงมาครึ่งนึงแต่ถ้าทานและลดลงไปอีกทำไมน้ำหนัไม่ลดลงแล้วแบบนี้เรียกว่าระบบเผาผลาญพัง

เมื่อคุณกลับไปกินเหมือนเดิมมันก็จะเกิดโยโย่ก็คือกลับไปอ้วนเหมือนเดิมและอาจจะอ้วนยิ่งกว่าเดิมอีกทำให้การลดความอ้วนหรือการควบคุมน้ำหนักของเรามันช่างทุกข์ทรมานใครก็ตามที่จะลดน้ำหนักและคุมอาหารเต็มที่แล้วแต่น้ำหนักไม่ลดน่าจะอยู่ในข่ายของระบบผาผลาญพัง

เพราฉะนั้นแล้ววิธีการแก้ก็คืออย่างนี้สาเหตุมันเกิดจากร่างกายของเราชินไปแล้วว่าเราจะต้องใช้แคลอรี่เพียงเท่านี้เช่น1,000กิโลแคลอรี่มันน้อยมากๆเลยต่อวันแต่ถ้าเรากินเกินนี้ไปมันจะกลายเป้นอ้วนแล้วเราจะไปลดให้เหลือ500กิโลแคลอรี่ต่อวันมันเป็นไปไม่ได้แล้วมันทรมานเกินไป

นอกจากนี้เราก็จะกลับไปอ้วนมากขึ้นกว่าเดิมและจะแก้ไขยังไง ในการแก้ไขก็ด้วยการปรับอาหารมันไม่ได้ยากเย็นอะไรเพียงแต่ว่าใช้เวลานิดนึง โดยหลักการก็คือการทานอาหารเราจะต้องกลับไปทานเพิ่มมากขึ้นให้เกือบจะเท่าเดิมเลย โดยปกติแล้วถ้าเราลดปริมาณอาหาร1,000กิโลแคลอรี่ต่อวันเราจะต้องกลับไปทานเพิ่มขึ้นสัปดาห์ละ10%

ซึ่งในสัปดาห์นี้เป็น1,100กิโลแคลอรี่สัปดาห์ต่อมาก็เพิ่มเป็นไปทีละ100ก็แล้วกันไปจนถึง2,000กิโลแคลอรี่เลยก็คำนวณว่าแคลอรี่ของคุณเท่าไหร่ก็ให้เอาน้ำหนักคูณ30แล้วกันเช่นน้ำหนัก60ก็ควรจะ1,800กิโลแคลอรี่ต่อวันเป็นค่ามารตฐานคือกลับไปทานให้เท่าเดิมก่อน

เพราะฉะนั้นจะใช้เวลาประมาณ8สัปดาห์ถ้าท่านจะเพิ่มจาก1,000กิโลแคลอรี่เป็น1,800กิโลแคลอรี่เพิ่มเร็วก็ไม่ได้เพิ่มช้าก็ไม่ได้คือประมาณนี้เพิ่มไปแบบนี้มันจะทำให้ร่างกายเริ่มชินกับปริมาณอาหารที่ต้องการต่อวันเป็น1,800กิโลแคลอรี่ในสัปดาห์ที่10

ในช่วงแรกท่านอาจจะมีน้ำหนักขึ้นในช่วงเดือนแรกก็ไม่ต้องซีเรียสเพราะไม่ว่ายังไงถ้าไม่ทำแบบนี้มันก็ขึ้นอยู่ดีเพราฉะนั้นโดยหลักการก็คือพยายามทำให้ถึง1,800กิโลแคลอรี่พอช่วงเดือนหลังสัปดาห์ที่5-10น้ำหนักท่านจะไม่ค่อยขึ้นแล้วน้ำท่านจะคงที่ไม่อ้วนไม่ผอมแล้วก็ต้องมีเทคนิคอีกอย่างคือคงการออกกำลังกายแบบเดิมเอาไว้ไม่ต้องไปเพิ่มแล้วก็ไม่ต้องไปลดเพราะตอนนี้เรากำลังปรับร่างกายให้ชินกับอาหารในปริมาณที่เหมาะสม

 

สนับสนุนโดย  แทงหวยออนไลน์ยังไง

bookmark_borderอาหารที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ

ซึ่งใครที่ได้ซื้อผักหรือว่าเนื้อหมูอาหารทะเลต่างๆบางทีเราอาจจะไม่ทันได้สังเกตเลยว่าทำไมเนื้อมันมีความสดใหม่อยู่ตลอดเวลานั่นก็เป็นสาเหตุที่บอกได้เลยว่ามันอาจจะมีสารพิษ เช่น ฟอร์มาลิน ผสมอยู่ในเนื้อสัตว์หรือว่าผักต่างๆที่เรานั้นได้ซื้อมา

ดังนั้นแล้วเรามีวิธีแก้ไขได้โดยการใช้ ความร้อน เป็นตัวททำลาย ฟอร์มาลิน โดยอาหารที่เพื่อนๆได้เอามาไม่ควรที่จะมีอาหารชนิดไหนเลยในการเอามารับประทานแบบสดๆควรจะต้องเอาไปผ่านความร้อนไม่ว่าจะเป็น ต้ม นิ่ง ปิ้ง ย่าง ทอด นอกจากจะฆ่าพยาธิแล้วยังช่วยทำให้ฟอร์มาลินสลายหายไปได้ด้วย

นอกจากนี้อาหารที่จะส่งผลเสียต่อร่างกายของคุณและมีพิษต่อร่างกายสูงก็คือ อาหารแปรรูป ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอก แหนมหรือแม้กระทั่ง หมูที่ปรุงสำเร็จรูปที่เอาไปปิ้งหรือนำเอาไปต้มในชาบูหรือว่าในหมูกะทะก็มักจะผ่านกระบวนการแปรรูปมาแล้ว

เพราะว่าอาหารประเภทนี้มักจะใส่สารเคมีลงไปทำให้เนื้อมันดูแดงหรือว่ามีความนิ่มเปลี่ยนไปผิดปกติกินเข้าไปก็มีความอร่อยหรือว่าสารเคมีเหล่านี้มันมักจะสะสมในร่างกายแล้วมักจะเป็นสารที่จะช่วยก่อมะเร็งด้วยฉะนั้นเราควรจะรับประทานอาหารเนื้อสัตว์ที่ไม่ได้ผ่านการแปรรูปมา

โดยเฉพาะพวกเนื้อย่างหรือว่าชาบูถ้าเนื้อไหนมันชมพูมากๆ แดงมากๆ หรือว่า นิ่มมากๆ อันนี้เพื่อนๆควรที่จะต้องหลีกเลี่ยงเลย

สำหรับอาหารประเภทต่อมาก็คือ อาหารที่ผ่านการทอดมาซ้ำๆไปซ้ำมาอันนี้ก็จะพบได้ในลูกชิ้นทอด กล้วยทอด มันทอด หรือแม้กระทั่ง ปลาท่องโก๋ เพราะว่าต่อให้เขาใช้น้ำมันชนิดที่ดีที่สุดในโลกเลยแต่ถ้าซ้ำไปซ้ำมาความร้อนมันก็จะทำให้น้ำมันเหล่านี้เป็นน้ำมันอิ่มตัวสุดท้ายพวกไขมันเหล่านี้ก็จะไปฟอกอยู่ในหลอดเลือดของเพื่อนๆ

เมื่อไหร่ที่มันได้เข้าไปฟอกอยู่ในหัวใจจะทำให้หัวใจขาดเลือดเสียชีวิตหากขึ้นสมองก็จะเป็นคนพิการติดเตียงทำให้เส้นเลือดในสมองตีบได้

นอกจากนี้อาหารที่มีความอันตรายก็คือ ส้มตำปูปลาร้า เพื่อนๆหลายคนอาจจะบอกว่าเรากินมาตลอดชีวิตมันจะเป็นพิษได้ยังไงมันก็มีแต่ผลไม้ไม่ใช่หรอเราจะขออธิบายอย่างนี้เพราะว่าในส้มตำที่เราไม่ได้ทำเองมันมักจะใส่กระเทียมป่นพริกป่นถั่วป่นลงไปหรือแม้กระทั่งกุ้งแห้ง

ซึ่งในวัตถุดิบเหล่านี้มันอาจจะมีเชื้อราตามมาก็ได้เพราะว่ามันเป้นวัตถุดิบแห้งมันสามารถทำให้เกิดเชื้อราขึ้นมาได้ง่ายและถ้าหากมันมีเชื้อราอยู่ในสารอาหารมันจะสร้างสารพิษตัวหนึ่งขึ้นมามีชื่อว่า “ อะฟลาทอกซิน “

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์ lottovip

bookmark_borderเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับว่านหางจระเข้

เมื่อเราได้พูดถึงเกี่ยวกับว่านหางจระเข้หลายคนคงรู้อยู่แล้วว่าสรรพคุณของว่านหางจระเข้ มีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเอามาเป็นยารักษาโรค หรือว่าจะเอามาเป็นยาฆ่าเชื้อต่างๆอย่างเช่น เป็นยาฆ่าเชื้อสำหรับแผลสดหรือว่าห้ามเลือด เช่น เมื่อเราได้เกิดอุบัติเหตุอย่างปั่นจักรยานล้มแล้ว

มีเลือดออกที่บริเวณหัวเข่าให้เราทำการล้างแผลให้สะอาดจากนั้นก็เอาว่านหางจระเข้มาโปะไว้บริเวณแผล เพื่อที่จะช่วยในเรื่องของการห้ามเลือดแล้วยังกระตุ้นเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆเพื่อสมานแผลให้หายเร็วขึ้น

     วิธีการใช้ของว่านหางจระเข้นั้นก็คือการที่เราตัดกราบของจระเข้มาแล้วก็ปอกเปลือกออกเอาแต่วุ้นของจระเข้มาวางไว้บนแผลที่เราต้องการจะทำการรักษาอย่างเช่น แผลไฟไหม้ แผลน้ำร้อนลวก หรือว่าจะเป็นการลดอักเสบเกี่ยวกับตุ่มสิวหรือหนอง และนอกจากนี้เมื่อเวรผิวหนังหรือใบหน้าของเราสัมผัสแดดจนทำให้ผิวไหม้ เราก็สามารถนำวุ้นของว่านหางจระเข้เอามาโปะบริเวณผิวหรือใบหน้าของเราเพื่อที่จะช่วยลดอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณใบหน้าและทำให้ใบหน้าของเราชุ่มชื้นและรอยหมองดำรอยไหม้ต่างๆก็ใช้ก็ค่อยลดจางลง

      แล้วด้วยสรรพคุณของว่านหางจระเข้นั้นมีอยู่มากมาย ทั้งทางด้านของยา และการเอามาทำเป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเครื่องสำอางต่างๆที่เราจะเห็นได้ว่าจะมีว่านหางจระเข้เข้ามาเป็นส่วนผสม เพื่อที่จะช่วยในการมารักษาหรือว่ามาทาบริเวณใบหน้าหรือผิวหน้าของเรา

       แล้วเมื่อเราได้รู้เกี่ยวกับสรรพคุณของว่านหางจระเข้มีอยู่มากมายที่ช่วยในเรื่องของการดูแลรักษาของบาดแผล และยังช่วยในเรื่องของการฟื้นฟูผิวหน้าหรือผิวหนังบริเวณตามร่างกายของเราต่างๆเพื่อช่วยลดอาการต่างๆของร่างกายที่เราได้เจอมาแล้วว่านหางจระเข้นั้นจะช่วยได้เสมอ ว่านหางจระเข้เป็นสมุนไพรที่ช่วยในเรื่องของการรักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกและยังช่วยในเรื่องของการบำรุงฟื้นฟูเกี่ยวกับแผลที่แห้งและตาย เพื่อที่จะช่วยให้กลับมามีผิวที่ฟื้นฟูได้ใหม่ และแน่นอนว่าเราควรที่จะมีว่านหางจระเข้ปลูกเอาไว้สัก 1 ต้นเพื่อที่จะเอาไว้เป็นยารักษาประจำบ้าน

ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คิดอย่างเช่น ทอดปลาแล้วน้ำมันกระเด็นใส่เรารู้สึกถึงความแสบให้เราเอาว่านหางจระเข้มาทาเพียงแค่นี้ก็จะช่วยในเรื่องของการปวดแสบที่บริเวณที่เราถูกน้ำมันกระเด็นใส่อย่างนี้เป็นต้น  และถือได้ว่าสรรพคุณเกี่ยวกับว่างหางจระเข้มีอยู่มากมายและนอกจากนี้ว่างหางจระเข้ก็ยังสามารถที่จะเอามารับประทานได้อีกด้วย เพียงแค่เรานำมาล้างเอาเมือกของวุ้นที่อยู่ในจระเข้ออกและก็ยังนำมาแปรรูปทำเป็นของว่างหรือว่าน้ำว่านหางจระเข้อีกด้วย

 

สนับสนุนโดย  ซื้อหวยฮานอยได้ที่ไหน